CRAVITY กลับมาพร้อมก้าวใหม่ที่กล้าหาญกับซิงเกิลอัลบั้มแรก FIND THE ORBIT พร้อมเผยโฉมมิวสิกวิดีโอกับผลงานที่ต้องจับตา “NOW OR NEVER” 

6 ธันวาคม 2024 #CRAVITY #FINDTHEORBIT

CRAVITY (กราวิตี) พร้อมทะลายกำแพงและก้าวไปอีกขั้นด้วยซิงเกิลอัลบั้มแรก FIND THE ORBIT ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญสำหรับการเดินทางของวง ผลงานชิ้นนี้บ่งบอกถึงพัฒนาการของ CRAVITY ที่แสดงให้เห็นถึงการทำงานเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม รวมถึงฐานแฟนคลับอันเหนียวแน่นที่ค่อยๆ เติบโตขึ้นผ่านกิจกรรมทั้งในบ้านเกิดและระดับนานาชาติ FIND THE ORBIT สะท้อนความมุ่งมั่นอันแรงกล้าในการสร้างความแตกต่างและมุ่งนำเสนอตัวตนอันเป็นเอกลักษณ์ในโลกของเคป็อป 

[CREDIT: STARSHIP ENTERTAINMENT]

เส้นทางใหม่ : FIND THE ORBIT

วงโคจรถูกกำหนดให้เป็นเส้นทางที่เกิดขึ้นเมื่อวัตถุถูกดึงดูดด้วยแรงบางอย่าง อาทิ แรงโน้มถ่วงที่ทำให้โคจรรอบวัตถุอื่นในลักษณะเดียวกัน CRAVITY ดวงดาวทั้ง 9 ที่มีความสมดุลอันยอดเยี่ยมได้สร้างเส้นทางเฉพาะตัวผ่านการทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์และแรงผลักดันที่หล่อหลอมให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา     ระหว่างการเดินทางและล่องลอยออกไป พวกเขาก็ค่อยๆปรับจูนเพื่อรักษาสายสัมพันธ์และจุดมุ่งหมายของพวกเขาเอาไว้ CRAVITY ได้สร้างวงโคจรอันเป็นเอกลักษณ์ผ่านแรงกดดัน , ความขัดแย้ง และพลังงานของการเดินทางครั้งนี้ขึ้นมา    

“Remember who we are - จดจำว่าเราเป็นใคร” 

FIND THE ORBIT ของ CRAVITY ส่งสัญญาณถึงเรื่องราวบทใหม่แห่งวัยเยาว์และความมุ่งมั่นของพวกเขา   ผลงานที่ปล่อยออกมาสะท้อนถึงการเดินทางที่ทำให้เติบโตและพัฒนาขึ้น ขณะที่ผลงานก่อนหน้านี้จะถ่ายทอดถึงการค้นหาตัวตนที่แตกต่าง แต่ FIND THE ORBIT  ได้ผสานแก่นแท้ของวัยรุ่นที่พวกเขาได้แสดงให้เห็นมาตลอด เข้ากับความทะเยอทะยานที่มุ่งไปข้างหน้าเพื่อก้าวสู่สิ่งใหม่ ซิงเกิลอัลบั้มนี้ทำหน้าที่ดั่งฉากเปิดที่พร้อมส่งสารอันทรงพลังและสอดประสานกัน เพื่อเน้นย้ำถึงการทำงานเป็นทีม , ตัวตนอันโดดเด่นของ CRAVITY ไปจนถึงการแสดงและแนวเพลงที่ชัดเจน ซึ่งพวกเขาเตรียมเผยโฉมเพื่อเข้าสู่ยุคใหม่

การเดินทางครั้งนี้ CRAVITY นำเสนอเรื่องราวการรวมตัวของวัยรุ่นที่มีภูมิหลังอันหลากหลาย ได้เรียนรู้จากการใช้ชีวิตในแต่ละวันและร่วมกันก้าวไปข้างหน้าเพื่อมุ่งสู่อนาคต แฟนๆ ที่ติดตามเรื่องราวของ CRAVITY  จะเข้าใจได้อย่างแจ่มชัดถึงสารที่สอดแทรกมาในอัลบั้ม นับตั้งแต่เดบิวต์สู่การแสดงคอนเสิร์ตเพื่อแฟนๆ , เวิลด์ทัวร์ ไปจนถึงการร่วมรายการต่างๆ ที่ทำให้พวกเขาค่อยๆ เติบโต วันนี้ CRAVITY ยังคงเดินหน้า ก้าวข้ามขีดจำกัด และกรุยทางในแบบฉบับของตัวเอง

ถ้าไม่ทำตอนนี้ก็คงไม่มีโอกาสแล้ว : ผลงานอันน่าจับตา “Now or Never”

เพลง “Now or Never” ถ่ายทอดพลังงานและสไตล์อันเจิดจ้าของ CRAVITY พร้อมกับสื่อสารอันแรงกล้าถึงการคว้าโอกาสไว้อย่างไม่ลังเล ริฟฟ์กีตาร์ , จังหวะกลองเปี่ยมพลัง และท่วงทำนองของเสียงร้องอันเข้มข้น ผสานกันจนกลายเป็นผลงานชิ้นเอกที่เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ CRAVITY ที่พร้อมเผชิญโลก มิวสิกวิดีโอที่เต็มไปด้วยฉากน่าตื่นเต้นชวนให้ติดตาม นำเสนอสมาชิกแต่ละคนที่โคจรบนเส้นทางอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง พร้อมสร้างสรรค์ประสบการณ์อันน่าทึ่งที่เผยให้เห็นด้านใหม่ๆของ CRAVITY 

 

ก้าวสำคัญบนเส้นทางของพวกเขา 
 

สำหรับ FIND THE ORBIT นั้น วง CRAVITY สะท้อนความเป็นศิลปินที่เดินทางมาถึงปีที่ 4 และพร้อมจะก้าวต่อไปอย่างกล้าหาญเพื่อการเติบโตในอนาคต ผลงานที่ปล่อยมานี้ไม่เพียงตอกย้ำถึงสไตล์สุดเนี้ยบและการทำงานเป็นทีมได้อย่างราบรื่น แต่ยังเสริมให้พวกเขามีบทบาทในวงการเคป็อปในขณะที่พวกเขายังคงจะสร้างความแปลกใหม่อย่างต่อเนื่อง 

 

FIND THE ORBIT ของ CRAVITY ถือเป็นก้าวสำคัญ และเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความเข้มแข็ง รวมถึงเป็นผู้กำหนดทิศทางในอนาคตอีกด้วย 

 

STREAM FIND THE ORBIT ได้ที่นี่

รับชมมิวสิกวิดีโอ “NOW OR NEVER” MUSIC VIDEO ได้ที่นี่       

FIND THE ORBIT cover artwork 

คำบรรยายแต่ละเพลง 

  1. Now or Never
    SERIM และ ALLEN มีส่วนร่วมในการแต่งเนื้อเพลง

เพลงที่โฟกัสนี้ เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการเผชิญโลกอย่างไม่หวาดหวั่นของสมาชิก ทั้งยังสื่อถึงความแน่วแน่ที่จะคว้าโอกาสโดยไม่ลังเล อ้าแขนรับกับสิ่งที่เข้ามาในปัจจุบัน พร้อมโอกาสที่จะพุ่งสู่เป้าหมายที่วางไว้ ด้วยเสียงร้องเปี่ยมพลัง แสดงให้เห็นถึงภาพลักษณ์ที่มีชีวิตชีวาและสไตล์อันโดดเด่นของ CRAVITY พร้อมกับสะท้อนถึงพัฒนาการทางดนตรีของพวกเขาด้วย     

  1. Secret

เพลงดิสโกป็อปชวนฝันเพลงนี้พาไปสำรวจอารมณ์อันลึกซึ้งของความรักและความปรารถนาที่จะแปรเปลี่ยนให้เป็นความลับระหว่างคนสองคน จังหวะเบสลึกผสานท่วงทำนองเสียงสูงเบาๆ คลอด้วยเสียงคอรัสและเสียงประสานอันไพเราะยิ่งเพิ่มความลุ่มลึก เสียงซินธ์แตกพร่าและองค์ประกอบทางดนตรีที่ได้แรงบันดาลใจจากยุค 80 ช่วยเพิ่มพลัง ชวนให้นึกถึงการแข่งรถผ่านเมืองที่สว่างไสวด้วยแสงไฟ    

  1. Horizon

WOOBIN มีส่วนร่วมในการโปรดิวซ์และแต่งเพลง ขณะที่ WOOBIN , SERIM และ ALLEN มีส่วนร่วมในการแต่งเนื้อเพลง 

เพลงที่หนึ่งในสมาชิก อย่าง WOOBIN มีส่วนร่วมในการโปรดิวซ์ ได้แรงบันดาลใจจากการเดินทางของวงในรายการ Road to Kingdom: ACE OF ACE เนื้อเพลงบรรยายประสบการณ์ของการโบยบินสู่ท้องฟ้าร่วมกับแฟนเพลง หรือเหล่า LUVITY ได้อย่างแจ่มชัด หลังต้องทนทุกข์กับความมืดมิดมาอย่างยาวนาน เพลงนี้ผสานริฟฟ์กีตาร์ชวนฝันเข้ากับจังหวะดนตรีสไตล์ดรัมแอนด์เบสที่สะท้อนอารมณ์อันเปี่ยมล้นของสมาชิกได้อย่างทรงพลังและเร้าใจ

เกี่ยวกับ CRAVITY

นับตั้งแต่เดบิวต์ CRAVITY ก็สร้างปรากฎการณ์อย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งการคว้ารางวัล Rookie of the Year จากงานแจกรางวัลทางดนตรีหลายเวทีในเกาหลี จนได้รับการขนานนามว่า “Super Rookie” น้องใหม่มาแรง วงประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่งทันทีที่ส่งอัลบั้มชุดแรกทะยานขึ้นอันดับ 1 ชาร์ต iTunes Top K-Pop Albums ของสหรัฐอเมริกา สร้างสถิติเป็นวงเคป็อปน้องใหม่เบอร์แรกของปี 2020 ที่ได้รับเกียรตินี้   หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็สร้างความฮือฮาในโลกโซเชียลจนเปิดตัวในอันดับ 12 ชาร์ต Billboard's Social 50 กลายเป็นศิลปินกลุ่มจากเกาหลีใต้ที่ติดอันดับได้เร็วที่สุดเป็นวงที่ 5 โดยหลายปีที่ผ่านมา ความสำเร็จของพวกเขายังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนสื่อ Variety  จัดให้พวกเขา เป็นวงน้องใหม่ที่ต้องรู้จัก ในปี 2022  รวมถึง Forbes ก็ยกให้พวกเขาเป็นศิลปินที่น่าจับตามองอีกด้วย 

ชื่อวง CRAVITY เป็นการรวมกันของคำว่า “Creativity” (ความคิดสร้างสรรค์) กับ “Gravity” (แรงดึงดูด) เพื่อสะท้อนถึงภารกิจในการดึงดูดความสนใจของผู้ฟังด้วยจักรวาลอันเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา ในฐานะบอยแบนด์วงแรกในรอบ 5 ปีของ Starship Entertainment ต่อจาก Monsta X วง CRAVITY ประกอบด้วย 9 หนุ่ม ได้แก่ Serim (เซริม) , Allen (อัลเลน) , Jungmo (จองโม) , Woobin (อูบิน) , Wonjin (วอนจิน) , Minhee (มินฮี) , Hyeongjun (ฮยองจุน) , Taeyoung (แทยอง) และ Seongmin (ซองมิน) ชื่อวงยังเป็นคำย่อจาก  “Center of Gravity” (ศูนย์กลางของแรงโน้มถ่วง) ซึ่งบ่งบอกถึงความสามารถในการดึงดูดผู้ฟังด้วยความคิดสสร้างสรรค์ , เสน่ห์ และพรสวรรค์ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ของพวกเขาอีกด้วย 

FOLLOW CRAVITY

INSTAGRAM | FB | X | YOUTUBE | TIKTOK